เซ็กซี่บาคาร่า ไฟไหม้รถแทกซี่หน้าโรงแรมแคสเซีย เผาวอดเกือบครึ่งคัน

เซ็กซี่บาคาร่า ไฟไหม้รถแทกซี่หน้าโรงแรมแคสเซีย เผาวอดเกือบครึ่งคัน

เมื่อเวลา 21.05 น. วันที่ 11 พ.ค.61 เจ้าหน้าที่ป้องกันและ เซ็กซี่บาคาร่า บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเชิงทะเล ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ที่หน้าโรงแรมแคสเซีย ม.4 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปช่วยดับเพลิงด้วย หลังจากรับแจ้งจึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเชิงทะเล และรถดับเพลิง จำนวน 2 คัน จากนั้นประสาน ร.ต.อ.นรุตม์พล แก้วแล รองสว.(สอบสวน)สภ.เชิงทะเล รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุหน้าโรงแรมดังกล่าว บริเวณกลางถนน รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ป้ายเขียว ทะเบียน ณข- 3160 ภูเก็ต เห็นที่ด้านรถห้องเครื่องยนต์ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว มี นายวัชระชัย พะคะ อายุ 28 ปี คนขับแท๊กซี่ และมีนักท่องเที่ยวชาวจีนยืนอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตรด้วยอาการตื่นตระหนกตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงเร่งฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดทั้งคัน โดยทางเจ้าหน้าที่ฯได้ฉีดน้ำอย่างระมัดระวังเนื่องจากรถคันดังกล่าวติดตั้งแก๊ส 

ซึ่งใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ จากกาตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า เครื่องยนต์ และห้องโดยสารหน้ารถถูกเพลิงเผาวอด จากการสอบถาม นายวัชระชัย พะคะ อายุ 28 ปี คนขับแท็กซี่ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้รับนักท่องเที่ยว จำนวน 2 คนมาจากสนามบินภูเก็ต เพื่อไปส่งที่โรงแรมอังสนา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เกิดไฟลุกไหม้มาจากด้านหน้าห้องเครื่องของรถยนต์ จึงจอดรถและรีบพานักท่องเที่ยวซึ่งเป็นผู้โดยสารออกจากรถอย่างรวดเร็ว จากนั้นรปภ.ที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันเอาน้ำมาดับที่ไม่สามารถดับได้จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า สาเหตุที่เกิดไฟไหม้น่าจะเกิดจากระบบแก็สของรถยนต์ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจอีกครั้ง

ยังไม่สามารถให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ด้านพล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงคดีว่า ในเบื้องต้นกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงาสนสอบสวน ในเบื้องต้นเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับนายเกรียงไกร (กัปตันเรือ) ในข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัสแต่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้เนื่องจากกัปตันเรือเรือยังคงมีอาการบาดเจ็บสาหัสและยังพักรักษาตัวอยู่ให้ห้องไอซียู รอให้อาการดีขึ้นจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หนุ่มใช้มีดทำครัวแทงหนุ่มภูเก็ตปักติดคาอยู่ใต้รักแร้เสียชีวิต

เมื่อเวลา 09.30 น. 12 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีคนถูกแทงเสียชีวิต เหตุเกิดหน้าบ้านเลขที่ 90/63 ซอยมะลพัทธ์ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.หญิงนุชรีล่องแก้ว สว.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต.มนัส วงษ์แก้ว สวป.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.เวชศักดิ์ จุลอดุงรองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เจ้าหน้าชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตำบลรัษฎาสภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตหนุ่มใช้มีดทำครัวแทงหนุ่มภูเก็ตปักติดคาอยู่ใต้รักแร้เสียชีวิต

ที่เกิดเหตุอยู่ภายใยซอยดังกล่าว ที่บริเวณซอยย่อยหน้าบ้านเช่าเลขที่ 90/63 พื้นถนนพบศพ นายพีรสิฐ แซ่หลิม อายุ30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/2 ม.6 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต สภาพนอนตะแคงข้างจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสีฟ้าอ่อน สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำอ่อน โดยที่บริเวณใต้รักแร้ด้านซ้ายมีรอยถูกแทงด้วยมีดทำครัวปักติดอยู่เหลือแต่ด้ามเหล็กโผล่ออกมา มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ตัดขั้วหัวใจเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้เก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด นอกจากนี้ทางชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยกันจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ คือ นายวัชระ วิชัยกุลอายุ 31 ปี บ้านเดิมชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นชาวบ้านและเพื่อนผู้ตายได้รุมต่อยผู้ตองหาจนคางแตกหน้าตาบวมซ้ำก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปถึงและส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถาม นายหนึ่ง เพื่อนผู้ตาย บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายวัชระฯ ผู้ต้องหา ได้มาหาตนที่บ้านพักเลขที่ 90/46 ซึ่งผู้ต้องหาได้มาจีบแฟนสาวของตน ตนก็ไม่สนใจอะไร เนื่องจากผู้ต้องหามาที่บ้านบ่อยและนั่งพูดคุยกันเป็นประจำ แต่ในช่วงเช้าวันนี้ ผู้ต้องหามาที่บ้านโดยได้พกมีดทำครัวมาด้วยดูท่าไม่ค่อยดี ตนจึงได้โทรศัพท์หาผู้ตายเพื่อให้มาหาที่บ้าน เมื่อผู้ตายมาถึงก็ได้นั่งพูดคุยกัน จากนั้นผู้ตายได้ใช้ไม้ไล่ตีผู้ต้องหาแต่ไม่โดน โดยทั้งสองคนได้วิ่งไล่กันไปที่หน้าบ้านเช่าจากนั้นผู้ต้องหาใช้มีดแทงใส่ผู้ตาย 1 ครั้งและผู้ตายได้วิ่งออกมาล้มลงที่เกิดเหตุจนเสียชีวิตในที่สุด

และจากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากตนทำไปเพราะป้องกันที่ถูกผู้ตายใช้ไม้ไล่ตี 

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าว ฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธมีดไปในเมือง สาธารณะโดยไม่เหตุอันควร พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เซ็กซี่บาคาร่า